วัคซีนป้องกันไวรัส RSV (ผู้สูงอายุ)
วัคซีน RSV คืออะไร?
วัคซีนอาร์เอสวี (Respiratory syncytial virus Respiratory syncytial virus; RSV) “Arexvy” ใช้สำหรับกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันโรคทางเดินหายใจส่วนล่าง (Lower Respiratory Tract Disease; LRTD) ที่มีสาเหตุมาจาก respiratory syncytial virus โดยมักมีอาการคล้ายเป็นหวัดธรรมดา คือ ไอ มีน้ำมูกเล็กน้อย และไม่มีไข้ แต่ในกลุ่มผู้สูงอายุอาจมีความเสี่ยงในการเกิดอาการรุนแรง เช่น มีภาวะปอดอักเสบ ปอดบวม หรือเสียชีวิตได้ ซึ่งผลของวัคซีนจะช่วยทำให้ลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยรุนแรงจากการติดเชื้อได้ โดยฉีดเพียง 1 เข็ม เท่านั้น
วัคซีน RSV สำหรับผู้ใหญ่ มีประสิทธิภาพในการป้องกันโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงดังนี้
• ผู้ใหญ่ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
• ผู้ใหญ่ที่มีอายุ 50 ถึง 59 ปี ที่มีความเสี่ยงต่อโรคที่เกิดจาก RSV
• ผู้ที่มีโรคประจำตัว โรคเรื้อรังต่อเนื่องที่เป็นอยู่ก่อน เช่น โรคปอดเรื้อรัง, โรคหัวใจและหลอดเลือดเรื้อรัง, เบาหวาน, โรคไต หรือ โรคตับเรื้อรัง
ประโยชน์หลังจากที่ฉีดวัคซีนป้องกัน RSV มีดังนี้?
• ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้สร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัส RSV ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ RSV
• ในกรณีที่ติดเชื้อ RSV ในผู้สูงอายุ จะช่วยลดความรุนแรงของโรคจากอาการไอ หายใจลำบาก ภาวะปอดอักเสบ และความเสี่ยงต่อการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
• ป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงจากการติดเชื้อ RSV เช่น ปอดบวม (pneumonia) และหลอดลมฝอยอักเสบ (bronchiolitis)
• ลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจาก RSV โดยเฉพาะในผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงสูง
ทำไมผู้สูงอายุควรฉีดวัคซีน RSV
• เนื่องจากเป็นโรคที่พบมากในเด็กเล็ก และมักมีการแพร่เชื้อจากการสัมผัสในโรงเรียน และนำเชื้อมาให้คนในบ้าน รวมถึงผู้สูงอายุและผู้ปกครอง
• โรค RSV ไม่มียารักษาโรคโดยเฉพาะ เป็นการรักษาตามอาการ หากเกิดกับผู้สูงอายุ ทำให้ผู้สูงอายุมีอันตรายและมีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าในเด็กเนื่องจากผู้สูงอายุมักจะมีโรคประจำตัวร่วม
ผลข้างเคียงของวัคซีน RSV
อาการไม่พึงประสงค์ที่ได้รับรายงานบ่อยที่สุดในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป คือ ปวดบริเวณที่ฉีดยา (61%) อ่อนล้า (34%) ปวดกล้ามเนื้อ (29%) ปวดศีรษะ (28%) และปวดข้อ (18%) อาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้มักมีความรุนแรงเล็กน้อยหรือปานกลางและหายไปภายใน 2-3 วัน หลังฉีดวัคซีน ข้อควรระวังในการรับวัคซีน RSV
• ห้ามฉีด Arexvy ให้ผู้ที่มีอาการแพ้สารออกฤทธิ์ หรือส่วนประกอบใด ๆ ของวัคซีน
• ควรระมัดระวังการฉีด Arexvy ในผู้ที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ หรือผู้ที่มีความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด เนื่องจากอาจทำให้มีเลือดออกหลังฉีด
• ไม่แนะนำให้ฉีด Arexvy ในระหว่างตั้งครรภ์ และ ในสตรีที่ให้นมบุตร