ไมเกรนกับโรคเส้นเลือดสมอง

หลายคนอาจสงสัยว่า โรคปวดศีรษะไมเกรนมีความสัมพันธ์กับโรคเส้นเลือดสมองอย่างไร ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกับโรคปวดศีรษะไมเกรนก่อน เนื่องจากเป็นโรคที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย แต่จะพบได้บ่อยที่สุดในวัยทำงาน  อายุประมาณ 30 – 40 ปี รวมทั้งยังเป็นโรคที่มีผลกระทบกับการดำเนินชีวิตอย่างรุนแรง อาทิเช่น อาจทำให้ต้องหยุดงาน หยุดเรียน หรือไม่สามารถพบปะพูดคุยกับเพื่อนฝูงหรือคนในครอบครัวได้ในขณะที่มีอาการไมเกรนกำเริบ

 

ไมเกรนเรื่องปวดหัว

โรคไมเกรนไม่ได้เป็นโรคปวดศีรษะทั่วไป แต่เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาทเอง ซึ่งอาจจะเป็นผลมาจากพันธุกรรมที่ผิดปกติ รวมถึงปัจจัยจากสิ่งแวดล้อม เช่น ฮอร์โมน ความเครียด การอักเสบในร่างกาย เข้ามาร่วมด้วย ส่งผลทำให้เกิดโรคไมเกรนขึ้น

ขณะที่เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนจะพบความผิดปกติของสมองหลายส่วน สมองส่วนที่เรียกว่า “ไฮโปธาลามัส” (Hypothalamus) เป็นส่วนที่เริ่มทำงานผิดปกติก่อน ซึ่งสมองส่วนนี้จะทำหน้าที่หลายอย่าง เช่น ควบคุมระบบประสาทอัตโนมัติ ควบคุมความอยากอาหาร การนอน การตื่น อุณหภูมิร่างกาย รวมทั้งฮอร์โมนในร่างกาย ในระยะถัดมาจะเกิดการทำงานผิดปกติที่ก้านสมอง (Brain stem) โดยก้านสมองจะส่งสัญญาณความปวดไปยังเส้นประสาทสมองคู่ที่ 5 ซึ่งเส้นประสาทสมองคู่ที่ 5 นี้ จะมีการปล่อยสารการอักเสบที่ส่วนปลายของเส้นประสาท ทำให้เกิดความรู้สึกปวดขึ้นที่บริเวณศีรษะและใบหน้า การรับความรู้สึกของบริเวณศีรษะและใบหน้าจะเพิ่มมากขึ้น ทำให้รับรู้การเต้นของเส้นเลือด เป็นลักษณะการปวดแบบตุบ ๆ ได้

 

ปวดหัวกับเส้นเลือดสมอง

ปวดศีรษะไมเกรนมีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคเส้นเลือดสมองอย่างไร คำตอบคือ คนที่เป็นไมเกรนจะมีโอกาสเกิดโรคเส้นเลือดสมองตีบและแตกมากกว่าคนปกติ!

จากรายงานในวารสารทางการแพทย์ชื่อดัง “Brain” ตีพิมพ์ในเดือนตุลาคม 2017 พบว่า คนที่เป็นไมเกรนชนิดมีอาการเตือน (Migraine with aura) จะเกิดเส้นเลือดสมองตีบได้มากกว่าคนทั่วไปถึง 27% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิงที่มีอายุน้อยกว่า 50 ปีจะมีปัจจัยเสี่ยงในการเกิดเส้นเลือดสมองตีบสูงที่สุด (Lantz M, et al. Brain. 2017 Oct 1;140(10):2653-2662.)

 

คนไข้ไมเกรนชนิดมีอาการเตือนที่ใช้ยาคุมกำเนิดมีฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen) เป็นส่วนประกอบ จะพบความเสี่ยงของเส้นเลือดสมองตีบเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า (Champaloux SW, et al. Am J Obstet Gynecol. 2017 May; 216(5):489.e1-489.e7.) การทำ MRI ศึกษาสมองในคนที่เป็นไมเกรน พบว่า สมองคนที่เป็นไมเกรนมีเส้นเลือดตีบแบบไม่แสดงอาการ (Silent Brain Infarction) และพบความผิดปกติของเนื้อสมองส่วนขาว (White Matter Lesion) มากกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า (Monteith T, et al. Stroke. 2014 Jun;45(6):1830-2.) รวมทั้งยังพบว่าคนที่เป็นไมเกรนมีความเสี่ยงในการเกิดเส้นเลือดสมองแตกมากกว่าคนทั่วไปถึง 46% (Sacco S, et al. Stroke. 2013 Nov;44(11):3032-8.)

 

จากข้อมูลทางการแพทย์ดังกล่าวข้างต้น คนที่เป็นโรคปวดศีรษะไมเกรน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชนิดที่มีอาการเตือนจะมีความเสี่ยงในการเกิดเส้นเลือดสมองตีบและแตกมากกว่าคนทั่วไป ดังนั้นจึงต้องมีการดูแลรักษาเรื่องปวดศีรษะไมเกรนให้ดี มีการใช้ยาแก้ปวด รวมทั้งยาป้องกันอย่างถูกต้องและเหมาะสม เนื่องจากยาในกลุ่มแก้ปวดบางชนิดสามารถเพิ่มปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคเส้นเลือดสมองและหัวใจได้ การตรวจหาปัจจัยเสี่ยงในการเกิดเส้นเลือดตีบและแตกตั้งแต่อายุน้อยเป็นสิ่งที่จำเป็น เนื่องจากโรคไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูง หรือเบาหวานสามารถเกิดได้ในคนอายุน้อย และเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญในการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง

 

ในคนที่มีอาการเตือนของไมเกรนเกิดขึ้นบ่อยอาจต้องตรวจหัวใจเพื่อหาว่ามีภาวะผนังกั้นห้องหัวใจรั่ว (Patent Foramen Ovale; PFO) หรือไม่ การใช้ยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นส่วนประกอบจะทำให้ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคเส้นเลือดสมองเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการก่อนจะใช้ยาคุมกำเนิด อย่าซื้อยาคุมกำเนิดมารับประทานเอง

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : ศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล